วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2554

ใบงานที่ 11

การกำหนดมาตรฐานคุณภาพของครูในการจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ ครูจะต้องทำกิจกรรม 7 อย่างคือ 1) การวิเคราะห์หลักสูตร 2) การวิเคราะห์ผู้เรียน 3) การจัดกิจกรรมที่หลากหลาย  4) การใช้เทคโนโลยีเป็นแหล่งและสื่อการเรียนรู้ของตนเองและนักเรียน  5) การวัดและประเมินผลตามสภาพจริงอย่างรอบด้านและเน้นพัฒนาการ 6) การใช้ผลการประเมินเพื่อแก้ไขปรับปีรุงและพัฒนาการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เต็มศักยภาพ  7) การใช้การวิจัยปฏิบัติการในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้ของนักเรียนและการสอนของตน      จากประเด็นดังกล่าว นักศึกษาจะนำวิธีดังกล่าวมาจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไร เมื่อนักศึกษาได้ลงมือปฏิบัติการเรียนการสอนให้แก่ผู้เรียนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ  (ข้อสอบ 20 คะแนน) ยกตัวอย่างออกแบบการจัดการเรียนรู้
1.การวิเคราะห์หลักสูตร
หมายถึง เทคนิควิธีการที่ทำให้ผู้สอนได้รู้ว่าจะต้องสอนและจะประเมินผลอย่างไรจึงจะสอดคล้องกับจุดมุ่งหมายที่กำหนดในแต่ละวิชา
           -สำหรับข้าพเจ้า  ดูว่าหลักสูตรกำหนดอะไรต้องการที่จะให้ผู้เรียนเรียนรู้อะไรแล้วนำเนื้อหามาปรับเขียนแผนการเรียนรู้เพื่อให้เกิดความสอดคล้อง
2.การวิเคราะห์ผู้เรียน
หมายถึงวิเคราะห์ลักษณะของผู้เรียนว่าผู้เรียนมรความพร้อมที่จะเรียนมากน้อยเพียงใดเพื่อที่เราจะได้เลือกสื่อให้มีความสัมพันธ์กับลักษณะของผู้เรียน
     -  สำหรับข้าพเจ้า  จะต้องลักษณะและความต้องการของผู้เรียนที่จะเรียนรู้ว่าต้องการที่จะเรียนรู้อะไรเพื่อที่เราจะทำสื่อ เนื้อหาและกำหนดวิธีการสอนให้เหมาะสมกับเด็กเพราะเด็กแต่ละคนจะมีลักษณะและความต้องการที่จะเรียนรู้แตกต่างกันออกไป
3.การจัดกิจกรรมที่หลากหลาย
หมายถึงการที่เราให้ผู้เรียนแสดงความสามารถในการทำกิจกรรม  จัดกิจกรรมที่หลากหลาย
       -สำหรับข้าพเจ้า  ในการทำกิจกรรมครูจะต้องให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมเพราะเด็กแต่ละคนจะมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไปเปิดโอกาสให้เด็ก

ทำกิจกรรมไม่ปิดกั้นความสามารถของเด็ก
4.การใช้เทคโนโลยีเป็นแหล่งและสื่อการเรียนรู้ของตนและนักเรียน
หมายถึงการนำเอาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการทำสื่อการเรียนการสอน
         -สำหรับข้าพ  เจ้านำเอาเทคโนโลยีมาใช้ประกอบการเรียนการสอน
5.การวัดและประเมินผลตามสภาพจริงอย่างรอบด้านและเน้นพัฒนาการ
หมายถึงเน้นการวัดคุณลักษณะของผู้เรียนอันเป็นผลเนื่องมาจากการเรียนการสอนตามหลักสูตรกำหนดที่สามารถวัดได้ครอบคลุมทั้งเนื้อหา  พฤติกรรม  และผลผลิตของผู้เรียน
    -สำหรับข้าพเจ้า จะใช้สิ่งที่เกี่ยวข้อง การจัดการเรียนรู้อาจจะเป็นผู้เรียน  ผู้สอน กระบวนการเรียนการสอนหลักสูตรมาประเมิน
6.การใช้ผลการประเมินเพื่อแก้ไขปรับปรุงและพัฒนาการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้การเรียนรู้ให้เต็มศักยภาพ
          -สำหรับข้าพเจ้า  นำผลที่ประเมินมาวัดผล  วิเคราะห์ดุผลการเรียนของแต่ละคนว่าเป็นอย่างไรแล้วนำส่วนบกพร่องนั้นมาปรับปรุงแก้ไขให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
7.การใช้การวิจัยปฎิบัติการพัฒนานวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้ของนักเรียนและการสอนของตน
                                 
        -สำหรับข้าพเจ้า  จากการจัดการเรียนการสอน  จากการสังเกต  วัดผล  การทดสอบ  นำมาวิจัยพฤติกรรมของผู้เรียนและนำไปพัฒนาการเรียนการสอนใหม่ๆเพื่อทำให้เกิดการเรียนการสอนที่ดีขึ้น
แผนการจัดการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม  
สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม     
                  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1                                                   
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1.5 เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา   
แผนการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา                     
 เวลา 2ชั่วโมง
สอนวันที่ 3,5   เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2550     ภาคเรียนที่ 1              
ปีการศึกษา 2550
1. สาระสำคัญ
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญๆ ทางพระพุทธศาสนาขึ้น
ในสมัยพุทธกาล พุทธศาสนิกชนจะยึดถือเอาวันเหล่านั้นเป็นวันที่ควรระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัยเป็นพิเศษ พุทธศาสนิกชนนิยมประกอบศาสนาพิธีเพื่อเป็นการบูชาและประพฤติให้ถูกต้องในวันสำคัญ และพิธีกรรมต่างๆ อย่างเหมาะสม
2. มาตรฐานการเรียนรู้
1.3 ประพฤติปฏิบัติตนตามหลักธรรม และศาสนพิธีของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือ ค่านิยมที่ดีงาม และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาตน บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม สิ่งแวดล้อม เพื่อการอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข
3. มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น
ส 1.3.1 รู้และปฏิบัติตนตามหลักศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่ดีงาม หลักธรรมทางศาสนาที่ตนนับถือในเรื่องที่เกี่ยวกับตนเอง กลุ่มสังคมที่ตนเป็นสมาชิก และสิ่งแวดล้อมที่ใกล้ตัว ชุมชนและประเทศชาติ เพื่อการอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข
ส 1.3.2 ใช้ภาษาในคัมภีร์ที่ใช้ในศาสนาที่ตนนับถือ และร่วมศาสนพิธี พิธีกรรม วันสำคัญทางศาสนาด้วยความเต็มใจ
4. ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
มีความรู้ ความเข้าใจ บอกความหมาย เห็นความสำคัญ รู้เข้าใจเหตุการณ์สำคัญ ๆและปฏิบัติกิจกรรมที่พึงกระทำในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาได้ด้วยความศรัทธาและถูกต้องเหมาะสม
5.จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกความหมายความสำคัญ ที่เกิดขึ้นในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
2. ปฏิบัติกิจกรรมที่พึงกระทำในวันสำคัญทางพระพุทธ ศาสนา ได้ด้วยความศรัทธา                                                                                                          
6. ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
1. ด้านวัฒนธรรมและศาสนา ตระหนักถึงคุณค่าของพระพุทธศาสนทะนุบำรุงศาสนา และปฏิบัติตนในแนวทางที่ดี
2. ด้านสังคม ควรมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มีน้ำใจต่อกัน และมีความสามัคคี ทั้งใน
ครอบครัว โรงเรียนและชุมชน
7. สาระการเรียนรู้
            วันสำคัญทางศาสนา
                        - วันมาฆบูชา - วันวิสาขบูชา
                        - วันอัฏฐมีบูชา - วันอาสาฬหบูชา
                        - วันธรรมสวนะ
8. กิจกรรมการเรียนรู้
ชั่วโมงที่ 1 ใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยยึดเด็กเป็นสำคัญ1.   นักเรียนสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยและ ทำสมาธิ ( 3-5 นาที) 
2. ครูทักทายสนทนาประสบการณ์ เกี่ยวกับการปฏิบัติตนในวันสำคัญทางศาสนาว่าเคยปฏิบัติตนอย่างไร และมีความรู้สึกอย่างไร
            3. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้และสาระการเรียนรู้
            4. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง วันสำคัญทางทางศาสนา จำนวน 10 ข้อ
            5. แบ่งนักเรียนออกเป็น 4 กลุ่ม คละความสามารถ ประกอบด้วย คนเก่ง 1 คน ปานกลาง 2 -3 คน และอ่อน 1 คน ครูแนะนำการเรียนรู้บทเรียนอิเรคทรอนิค โดยใช้โปรแกรม power pointโดยนักเรียนต้องร่วมมือกัน และต้องดูแลช่วยเหลือกันในการเปิดบทเรียน อ่านและเรียนรู้ร่วมกัน ใช้คอมพิวเตอร์กลุ่มละ 1 เครื่อง คนที่เก่งจะเปิดบทเรียนอิเรคทรอนิค นักเรียนในกลุ่มเรียนรู้ร่วมกันโดยอ่านเนื้อหาและฟังบทเพลงที่เกี่ยวข้องกับวันแต่ละวัน จบตอนแต่ละช่วงวันสำคัญ แต่ละวันหยุดอภิปรายแสดงความคิดเห็น ครูคอยสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนรายบุคคล และพฤติกรรมการเรียนรู้ของแต่ละกลุ่ม
            6. ครูชี้แนะในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาแต่ละวันมีความสำคัญอย่างไร วันสำคัญมีอะไรที่เป็นปรากฏการณ์ที่นักเรียนสังเกตเห็นได้
            7. นักเรียนและครูช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้รับ จากการเรียนรู้บทเรียนอิเรคทรอนิค โดยใช้โปรแกรม power point โดยครูเสริมข้อคิด เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงให้นักเรียนได้ตระหนักถึงคุณค่าของพระพุทธศาสนา มีความเอื้อเฟื้อมีน้ำใจทั้งในครอบครัว และสังคม
            8.นักเรียนดูภาพประกอบ กิจกรรมวันสำคัญทางศาสนา แล้วร่วมสนทนาซักถามอภิปรายความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพ เพื่อให้นักเรียนเข้าใจยิ่งขึ้น โดยครูเป็นผู้ชี้แนะเพิ่มเติมภาพที่เกี่ยวข้องกับวันสำคัญทางศาสนา
            9. แจกใบงานที่ 1 เรื่องวันสำคัญทางศาสนา นักเรียนทำใบงาน ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานแต่ละคนแต่ละกลุ่มและคอยให้คำแนะนำ ตอบข้อซักถามของนักเรียน
             10. ครูแจกใบงานที่ 2 พร้อมกับให้นักเรียนสรุปเกี่ยวกับภาพว่านักเรียนคนใดเคยได้ปฏิบัติตามภาพ ที่นักเรียนได้เห็นบ้าง
                 11. ตรวจผลงานร่วมกัน ครูชี้แนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับพิธีกรรมในแต่ละวัน ของวันสำคัญทางศาสนาพร้อมสรุปข้อที่ควรปฏิบัติกับวันสำคัญ และการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี และแนะนำการเรียนในครั้งต่อไป
ชั่วโมงที่ 2 ใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบจิ๊กซอร์
1. นักเรียนสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยและ ทำสมาธิ ( 3-5 นาที
            2 ทบทวนความรู้เดิมจากการเรียนบทเรียนอิเรคโทนิค โดยใช้โปรแกรมpower point ในชั่วโมงที่ผ่านมา
      3. ดูภาพและสนทนากับนักเรียน ในเรื่องเกี่ยวกับการไปร่วมพิธีกรรมทางพระพุทธ ศาสนาที่วัดในชุมชน เมื่อครั้งที่ผ่านมาว่ามีกิจกรรมอะไรบ้าง นักเรียนได้ร่วมกิจกรรมนั้นอย่างไร และวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่จะมีขึ้นต่อจากนี้คือวันใด
      4. แบ่งนักเรียนเป็น 5 กลุ่ม คละความสามารถ ให้สมาชิกในกลุ่มเลือกผู้ทำหน้าที่ประธาน รองประธานและเลขานุการ ศึกษาจากใบความรู้ ตั้งชื่อกลุ่มในแต่ละกลุ่มและทำกิจกรรมตามใบงานกำหนด โดยศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับวันสำคัญดังนี้
- วันมาฆบูชา – วันวิสาขบูชา       
- วันอัฏฐมีบูชา - วันอาสาฬหบูชา
- วันธรรมสวนะ
5.สมาชิกในกลุ่มได้รับมอบหมายให้ศึกษาเนื้อหาสาระคนละ 1 ส่วน (เปรียบเสมือนได้ ชิ้นส่วนของภาพตัดต่อคนละ 1 ชิ้น) และหาคำตอบในประเด็นปัญหาสมาชิกในกลุ่มบ้านของเรา แยกย้ายไปรวมกับสมาชิกกลุ่มอื่นซึ่งได้รับเนื้อหาเดียวกัน และร่วมกันทำความเข้าใจในเนื้อหาสาระนั้นอย่างละเอียด และร่วมกันอภิปรายหาคำตอบประเด็นที่ผู้สอนมอบหมายให้
5.1 สมาชิกในกลุ่มบ้านของเรา แยกย้ายไปรวมกับสมาชิกกลุ่มอื่นซึ่งได้รับเนื้อหาเดียวกัน 9 เป็นกลุ่ม ผู้เชี่ยวชาญ ขึ้นมา และร่วมกันทำความเข้าใจในเนื้อหาสาระนั้นอย่างละเอียด และร่วมกันอภิปรายหาคำตอบประเด็นที่ใบงานกำหนด
5.2 สมาชิกกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ กลับไปสู่กลุ่มบ้านของเรา แต่ละกลุ่มช่วยสอนเพื่อนในกลุ่มให้เข้าใจเนื้อหาที่ตนได้ศึกษาร่วมกับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ สมาชิกทุกคนก็จะได้เรียนรู้ภาพรวมของวันสำคัญทั้งหมด
5.3 ผู้เรียนทุกคนทำแบบทดสอบ แต่ละคนจะได้คะแนนเป็นรายบุคคล และนำคะแนนของ ทุกคนในกลุ่ม บ้านของเรามารวมกัน (หรือหาค่าเฉลี่ย ) เป็นคะแนนกลุ่ม กลุ่มที่ได้คะแนนสูงสุดได้รับรางวัล
    6. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปแนวปฏิบัติตน ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเน้นการจัดกิจกรรมในวันสำคัญต่างๆ โดยนำแนวคิดทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแนวปฏิบัติ ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น ให้ ตระหนักถึงคุณค่าของความสำคัญกับการรักษาศีล และปลูกฝังความสามัคคี เสียสละ สร้างความเข้มแข็งให้กับสังคม ชุมชนวัด และปฏิบัติตน ในแนวทางที่ดี และในวันสำคัญต่างๆ ครูนำนักเรียนไปร่วมกิจกรรมที่วัด เพื่อปลูกฝังค่านิยมที่ดีงามให้เกิดขึ้นและนักเรียนทำแบบฝึกหัดจากใบงานและเขียนแผนผังความคิดเกี่ยวกับกิจกรรมที่ควร ปฏิบัติในวันสำคัญ
         7. ทำข้อทดสอบหลังเรียน
         8. อุปกรณ์ สื่อและแหล่งการเรียนรู้
                   1. โปรแกรม power point เรื่อง วันสำคัญทางศาสนา
 2. ใบงานที่ 1 เรื่อง วันสำคัญทางศาสนา
                   3. ใบงานที่ 2 เรื่อง เหตุการณ์วันสำคัญทางศาสนา
                                4. หนังสือ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
                                5. แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง วันสำคัญทางศาสนา จำนวน 10 ข้อ
6. ห้องสมุดโรงเรียน
                         7. ภาพการแสดงธรรมในวันสำคัญทางศาสนา
9. การวัดผลและประเมินผล
            9.1 วิธีการวัด/สิ่งที
 1. การตรวจใบงาน
                                                  2. การสังเกตการณ์ทำงานอย่างสร้างสรรค์และมีวิจารณญาณ
                            3. การสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล
                    4. การสังเกตพฤติกรรมกลุ่ม
                           5. การตรวจผลงานจากแบบทดสอบ
                          6.การตรวจผลงานแผนผังความคิด
            9.2 เครื่องมือวัด
                             1. แบบประเมินผลการทำข้อทดสอบก่อนเรียน หลังเรียน
                        2. แบบประเมินพฤติกรรมการอภิปรายและบันทึกผล
                  3. แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคลและรายกลุ่ม
                                 4. แบบบันทึกประเมินการฝึกปฏิบัติใบงานที่ 1 และใบงานที่ 2
            9.3 การประเมินผล
                        1. ผลการปฏิบัติใบงานที่ 1
                        2. ผลการปฏิบัติใบงานที่ 2
                                                    3.ผลการปฎิบัติจากการทำแผนผังความคิด
4. ผลทดสอบหลังเรียน
เกณฑ์การวัด
            ผ่านเกณฑ์       นักเรียนผ่านเกณฑ์ประเมินตั้งแต่ร้อยละ 50 ขึ้นไป
            ไม่ผ่านเกณฑ์   นักเรียนผ่านเกณฑ์ประเมินน้อยกว่าร้อยละ 50
10. กิจกรรมเสนอแนะ
            นักเรียนควรไปศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับวันสำคัญทางศาสนา ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของคนไทย ทั้งในด้านชีวิตความเป็นอยู่ที่นำความรู้จากวันสำคัญทางศาสนา มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน โดยถามจากผู้รู้และศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากหนังสือในห้องสมุด
           

ใบงานที่ 10

ให้นักศึกษาได้ศึกษาเหตุการณ์ในประเด็นต่อไปนี้
     เหตุการณ์ที่ผ่านมาเกิดขึ้นกับประชาชนและประเทศไทยให้นักศึกษาอ่านและศึกษาข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ Internet  Blog ต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็นสรุปวิเคราะห์สังเคราะห์ ลงในบล็อกของนักศึกษาในกิจกรรมที่ 10
1)  กรณีเขาพระวิหารจังหวัดศรีสะเกษ 
2)  กรณีพื้นที่ชายแดน จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดสุรินทร์  จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดสระแก้ว ตราด เกาะกรูด ทะเลในอ่าวไทย
3)  กรณี MOU43 ของรัฐบาลนายชวนหลีกภัยมีผลต่อการจัดการพื้นที่ชายแดนอย่างไร หากมีการนำมาใช้จะก่อให้เกิดปัญหากับพี่น้องประชาชนในจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับชายแดนไทยกับกัมพูชาอย่างไร
4)  กรณี คนไทย 7 คน ประกอบด้วย สส.พรรคประชาธิปัตย์  (นายพนิต)  ประชาชนหัวใจรักชาติ (นายวีระ สมความคิด นายแซมดิน  นายตายแน่  มุ่งมาจนและผู้ติดตามผู้หญิงอีก 2 ท่าน) ร่วมกับสส.ไปตรวจพื้นที่ที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ในการแบ่งเขตพื้นที่ชายแดน และถูกทหารกับพูชากับจับหรือลักพาตัวไปขึ้นศาลประเทศกัมพูชาในฐานะที่นักศึกษาเรียนวิชาสังคม จะนำความรู้มาอธิบายให้นักเรียนของท่านได้รับรู้ข้อมูลอย่างไร  โปรดสรุปและแสดงความคิดเห็น
        
    คดีปราสาทเขาพระวิหาร เป็นความขัดแย้งระหว่างราชอาณาจักรกัมพูชากับราชอาณาจักรไทย ซึ่งเริ่มเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2501 ในการอ้างสิทธิเหนือบริเวณปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งตั้งอยู่ที่ชายแดนไทยด้านอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ และชายแดนกัมพูชาด้านจังหวัดพระวิหาร ปัญหาดังกล่าวเกิดจากการที่ทั้งไทยและกัมพูชา ถือแผนที่ปักปันเขตแดนตามแนวสันปันน้ำของเทือกเขาพนมดงรักคนละฉบับ ทำให้เกิดปัญหาพื้นที่ทับซ้อนของทั้งสองฝ่ายในบริเวณที่เป็นที่ตั้งของตัวปราสาท โดยทั้งฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทยได้ยินยอมให้มีการพิจารณาปัญหาดังกล่าวขึ้นที่ ศาลโลกได้ตัดสินให้ตัวปราสาทเขาพระวิหารตกเป็นของกัมพูชา เม จนกระทั่ง 2-3ปีที่ผ่านมาความขัดแย้งเริ่มทวีความรุนแรง ขึ้นเมื่อกัมพูชาพยายามผลักดันเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งรวมถึงพื้นที่บริเวณข้างๆเขาพระวิหารที่ด้วยมีปัญหาคือพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ พิพาทกันอยู่ ต่อมาในช่วงที่ผ่านมาเกิดเหตุคนไทยถูกจับกุมในพื้นที่ พิพาทนี้ทำให้มีปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้อยู่ในปัจจุบัน

2)  กรณีพื้นที่ชายแดน จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดสุรินทร์  จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดสระแก้ว ตราด เกาะกรูด ทะเลในอ่าวไทย
เป็นพื้นที่ที่ยังพิพาทกันอยู่เป็นเขตแดนที่ทั้งสองฝ่ายอ้างว่าเป็นของตนเองซึงเป็นเหตุให้มีปัญหาทั้งเรื่องของการจดทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก และกรณีคนไทยถูกจับกุมตัวเพราะพื้นที่ดังกล่าวมีผลประโยชน์แฝงอยู่อาทิ เช่น   ทะเลในอ่าวไทยมีก๊าซธรรมชาติอยู่ถ้าฝ่ายใดได้ก็จะมีอภิสิทธิ์เต็มที่   เกาะกรูดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งมีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ เป็นต้น
3)  กรณี MOU43 ของรัฐบาลนายชวนหลีกภัยมีผลต่อการจัดการพื้นที่ชายแดนอย่างไร หากมีการนำมาใช้จะก่อให้เกิดปัญหากับพี่น้องประชาชนในจังหวัดที่มีพื้นที่ติดกับชายแดนไทยกับกัมพูชาอย่างไร
ผลของMOU 43 ทำให้กรณีพิพาทนี้ยุ่งเข้าไปอีกทำให้หาข้อยุติไม่ได้ ซึ่งในปัจจุบันหากนำมาในจะทำให้พื้นที่พิพาทหรือพื้นที่ทับซ้อนตกเป็นของกัมพูชาซึ่งทำให้ไทยเสียเปรียบกัมพูชาเพราะ  MOU 43มีการจัดทำแผนที่ มาตราส่วน 1:200,000
   4)  กรณี คนไทย 7 คน ประกอบด้วย สส.พรรคประชาธิปัตย์  (นายพนิต)  ประชาชนหัวใจรักชาติ (นายวีระ สมความคิด นายแซมดิน  นายตายแน่  มุ่งมาจนและผู้ติดตามผู้หญิงอีก 2 ท่าน) ร่วมกับสส.ไปตรวจพื้นที่ที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ในการแบ่งเขตพื้นที่ชายแดน และถูกทหารกับพูชากับจับหรือลักพาตัวไปขึ้นศาลประเทศกัมพูชาในฐานะที่นักศึกษาเรียนวิชาสังคม จะนำความรู้มาอธิบายให้นักเรียนของท่านได้รับรู้ข้อมูลอย่างไร  โปรดสรุปและแสดงความคิดเห็น
 ในกรณีนี้ไม่แน่นอนอยู่ว่าไทยลุกล้ำดินแดนของกัมพูชาอย่างไรเพราะเป็นพื้นที่ติดกันและมีข้อพิพาทกันอยู่ ดังนั้นรัฐบาลจะต้องช่วยเหลือคนเหล่านี้โดยเร็วที่สุดโดยใช้ความเด็ดขาดไม่ยินยอมและอ่อนแอ อย่างนี้ทำให้กัมพูชาได้ใจและหาเรื่องอยู่คลอดอยู่ที่การตัดสินใจของรัฐบาลซึ้งมีความสำคัญมาก และขอร้องให้นายกและรัฐบาลชุดนี้จัดการปัญหาให้เสร็จไปคนไทยจะได้ไม่เป็นเหยื่อของการพิพาทของดินแดนอีกต่อไป  



ใบงานที่ 9

ให้นักศึกษา ดูทีวีในแหล่งความรู้โทรทัศน์สำหรับเลือกดูคนละหนึ่งเรื่อง การจัดการเรียนการสอนในชั้นเรียน  ให้สรุปเป็นประเด็นสำคัญ ที่นักศึกษาเห็นว่าสำหรับการจัดการเรียนการสอน และหากนักศึกษาไปฝึกสอนในสถานศึกษาที่ได้ดูจากทีวี  นักศึกษาจะเตรียมตัวออกสังเกตการสอนว่า  อาชีพครูจะต้องมีคุณสมบัติที่ดีอย่างไร และจะทำให้เกิดกับตัวนักศึกษาได้อย่างไร  เขียนอธิบายขยายความลงในบล็อกของนักศึกษาในกิจกรรมที่ 9 (โทรทัศน์สำหรับครูอยู่ในแหล่งเรียนรู้สำหรับนักศึกษาครู เลือกพยายามอย่าให้ซ้ำกัน หรือซ้ำกันแต่ให้มุมมองที่แตกต่างกัน)
เรื่องที่ศึกษาโทรทัศน์ครู  เรื่อง 15 ปีไม่มีเบื่อ สำคัญที่เตรียมการสอน จึงสรุปประเด็นสำคัญได้ดังนี้
จากการที่ได้ศึกษาจาการดูโทรทัศน์เรื่อง 15ปีไม่มีเบื่อ
การเตรียมการสอนที่ดีการค้นคว้าหาความรู้ใหม่ๆตลอดเวลาเพื่อที่ได้นำไปใช้ในการสอนที่ไม่น่าเบื่อ  โดยที่การฝึกฝน  การหาเทคนิคการสอนเช่น การอ่านหนังสือเทคนิคการสอนของต่างประเทศ  การเข้าฝึกอบรมการทำกิจกรรมซึ่งจะสามารถมีได้ตลอดเวลาให้ได้รับความรู้อย่างเต็มที่ 
นักเรียนจะไม่สับสนด้วยซึ่งในการเขียนแผนการสอนก็มีความจำเป็นที่จะต้องสอดคล้องกับมาตราฐานของหลักสูตร
คุณสมบัติของครูจะต้องมีลักษณะของความรับผิดชอบคิดและหาวิธีการสอนใหม่ที่จะมาสอนนักเรียน เพื่อพัฒนาการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน  ซึ่งครูก็ต้องมีสมบัติในการวิเคราะห์ตัวของนักเรียนที่มีความแตกต่างกันในด้านความสามารถ  และครูจะต้องรู้จักการเตรียมตัวการสอนและจัดเรียงเนื้อหาให้เป็นลำดับและตรงกับมาตรฐานหลักสูตรและตัวชี้วัดซึ่งจะต้องมีการพัฒนาตามคุณลักษณะ และครูจะต้องรู้จักการหาความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอ กล้าที่จะทดลองและพัฒนาการสอนอยู่เสมอเพื่อทำไห้ตนเองมีประสิทธภาพและความรู้ให้มากที่สุด